Last updated: 25 พ.ย. 2565 | 1406 จำนวนผู้เข้าชม |
ช่วงนี้ก็เข้าสู่หน้าฝนกันแล้ว อุปกรณ์เล็กๆ ของรถ แต่ความสำคัญไม่เล็กอย่าง “ที่ปัดน้ำฝน” ถือว่าเป็นของที่จำเป็นต้องใช้งานเลยล่ะ หลายคนอาจจะละเลยที่ปัดน้ำฝนไป พอจะเปิดใช้งาน กลับมีเสียงยางขูดกระจกดังครืดๆ ซะแล้ว!
ซึ่งอาการที่ว่ามานี้ หมายถึงยางปัดน้ำฝนเสื่อมแล้ว ถ้ายังฝืนใช้ต่อไป อาจจะทำให้กระจกบังลมหน้าเป็นรอยขูดได้ หรือทำให้รู้สึกรำคาญ เวลาขับรถอีก
ใบปัดน้ำฝนที่ดี ต้องสามารถรีดน้ำได้หมดจด และใบปัดไม่ส่งเสียงดังน่ารำคาญ และตัวก้านปัดน้ำฝนของรถ มักจะสั้น-ยาว ไม่เท่ากัน เพราะทางผู้ผลิตก็ออกแบบมาเพื่อให้รับกับส่วนโค้งของกระจก สามารถปัดได้มุมกว้างมากที่สุดบนกระจกบังลมหน้า ส่วนก้านปัดน้ำฝนในด้านท้ายรถ ส่วนใหญ่จะมีในรถเก๋งท้ายตัด เพื่อปัดกวาดน้ำฝน และฝุ่นที่บริเวณกระจกบานท้าย
เราขอแนะนำให้เปลี่ยนทุกๆ 1 ปี ราคาก็เพียงชุดละหลักร้อยบาท คุ้มค่ากับการใช้งาน ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งแบบยาง หรือแบบซิลิโคน ที่ไม่ต้องใช้โครงเหล็ก
วิธีการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน มีง่ายๆ ดังนี้ครับ …
1.ยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นทั้ง 2 ข้าง พร้อมกับหมุนใบปัดเป็น 90 องศา
2.ดันสลักเล็กๆ ออก พร้อมเอาใบปัดน้ำฝนออก
3.ดึงยางอันเก่าพร้อมเส้นเหล็กออก
4.ใส่เส้นเหล็ก (ที่ด้านบนของร่องยาง) พร้อมใส่กลับเข้าไปในโครงเหล็กใบปัดน้ำฝน
5.ทำเรียบร้อย ใส่กลับไปในก้านปัดน้ำฝน แค่นี้ก็พร้อมใช้งานแล้ว
สิ่งสำคัญ อย่าลืมทำความสะอาดชุดปัดน้ำฝน และกระจกหน้ารถอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงตรวจเช็คน้ำยาล้างกระจกให้พร้อม แค่นี้ใบปัดน้ำฝนก็พร้อมใช้งานในช่วงหน้าฝนนี้แล้ว รับรองขับรถได้อย่างปลอดภัยหายห่วง
28 พ.ย. 2565
24 พ.ย. 2565